วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับสู่ โลกของ disneylanddo.blogspot.com

 

           สวัสดีคะ           

ยินดีต้อนรับสู่
 
disneylanddo.blogspot.com
 
 
 ในบล็อกของเรามีเรื่องราวต่างๆ ของdisneyและdisneyland พวกเราชอบและสนใจในเรื่องนี้มาก
ขอให้สนุกกับบล็อกของพวกเรานะคะ
 
ขอบพระคุณคะ 
 
 

ภาพสวยๆ จาก disneyland












 
 
 




http://travel.mthai.com/world-travel/45255.html
http://teen.mthai.com/variety/44994.html

ดิสนีย์แลนด์ ความลับ ของ สวนสนุก ชื่อดัง


ดิสนีย์แลนด์ ความลับ ของ สวนสนุก ชื่อดัง
DisneyLand.. Walt Disney’s Secret

หลายๆ คนคงเคยไปเยือน ดิสนีย์แลนด์ สวนสนุก
            และ ดินแดนแห่งเทพนิยาย ที่เด็กๆ และผู้ใหญ่ใฝ่ฝันถึง  แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยไป วันนี้ Travel.mthai เลยมีข้อมูลน่าสนใจ เอาไว้อ่านเล่นๆ มาฝากนะคะ
 

Disneyland

วอล์ท ดิสนีย์ เปิด ดิสนีย์แลนด์ แห่งแรก เมื่อ 17 กรกฎาคม 2498 ที่เมือง อนาแฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเขาออกแบบเครื่องเล่นตามความฝัน และจินตนาการของเขาเมื่อวัยเด็ก หลายคนปรามาสเขาไว้ว่า สวนสนุกแห่งนี้จะต้องขาดทุน และเลิกกิจการภายใน 1 ปีแต่มันก็สามารถยืนยง มาได้ถึงปีนี้เป็นปีที่ 58 แล้ว และยังขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ หลายประเทศ ดิสนีย์แลนด์ ไม่ได้มีแต่ความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังมีความลับซ่อนอยู่มากมาย ว่ากันว่ามีมากกว่า 100 ความลับ

หลายคนคงคิดว่า ดิสนีย์แลนด์ ต้องจ้างพนักงานทำความสะอาดจำนวนมาก เพราะพื้นที่ภายในสะอาด ไม่มีขยะให้เห็น และไม่มีบรรดาเพื่อนๆ ที่ไม่ได้รับเชิญของมิกกี้เมาส์ หนูหูกลมตัวชูโรงของที่นี่ออกมาวิ่งเพ่นพ่านให้เห็น ความลับก็คือ พนักงานกำจัดหนูของที่นี่คือ แมวจำนวนกว่า 200 ตัว ทุกคืนหลังจากสวนสนุกปิดแล้ว แมวจะถูกปล่อยออกมาเพื่อไล่ล่าประชากรหนู

 
 
 
ดิสนี่ย์แลนด์ สวนสนุก และ ดินแดนแห่งเทพนิยาย

           ทาง ดิสนีย์แลนด์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ แต่หลายคนเชื่อว่า วิธีนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2500 เมื่อพบว่ามีแมวพเนจร เข้ามาอาศัยอยู่ใน สวนสนุก กว่า 100 ตัว เมื่อไล่ไป ไม่นานแมวพวกนี้ก็กลับมาอีก ทางสวนสนุกจึงคิดค้นวิธีนี้ และสร้างบ้านให้แมวพวกนี้อยู่อย่างสบาย และปล่อยพวกมันออกมาในตอนกลางคืน เพื่อทำงานปราบหนู



นอกจากนี้ ในช่วงที่เปิดทำการใหม่ๆ ดิสนีย์แลนด์มีปัญหาแมลงบินไปบินมา ทำความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยว ทางดิสนีย์แลนด์จึงได้นำแมลงชนิดหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กมาก จนมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากว่า 2,000 ตัว เข้ามาปล่อยในสวนสนุก เพื่อให้แมลงพวกนี้ไล่กินแมลงที่บินไปบินมา

ครั้งหน้าเมื่อไปที่ ดิสนีย์แลนด์ ขอให้ลองมองหาภาพ มิกกี้เมาส์ ซึ่งถูกซ่อนไว้ทั่วสวนสนุกแห่งนี้ ว่ากันว่ามีจำนวนนับพันเลยทีเดียว มันถูกซ่อนไว้ในหลายที่ เช่น สิ่งก่อสร้าง วอลเปเปอร์ เพดานและป้ายบอกทาง ทีมดีไซน์เนอร์และวิศวกรของดิสนีย์แลนด์ เป็นเจ้าของไอเดียนี้ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานของผู้มาเยือน เมื่อมีคนเจอภาพมิกกี้เมาส์ที่ซ่อนไว้ก็จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอย่างสนุกสนาน

 



       ส่วนคลับ 33… ไม่ใช่ชื่อเครื่องเล่น แต่เป็นคลับลับของดิสนีย์แลนด์อันหรูหรา ซึ่งตั้งขึ้นมาอย่างลับๆ ไม่มีใครรู้สถานที่ตั้งของคลับนี้ นอกจากสมาชิกที่จำกัดจำนวนไว้ที่ 487 คน คนที่ต้องการเป็นสมาชิกต้องเข้าคิวคอย บางคนต้องคอยถึง 14 ปี ตอนแรกคลับนี้สร้างขึ้น เพื่อต้อนรับนักธุรกิจและนักลงทุน คลับนี้เคยรับรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลายคน ดาราฮอลลีวู้ดและแขกของพวกเขา ว่ากันว่า วุฒิสมาชิกโรเบิร์ต เคเนดี้ มาทานอาหารเย็นที่นี่เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2511 หรือ 2 วันก่อนถูกลอบสังหาร

     ความลับอีกข้อ คือ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดิสนีย์แลนด์ นับตั้งแต่ภารโรง ช่างทาสี เจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องเล่น และคนที่แต่งตัวเป็นดาราในเทพนิยาย จะถือตัวเองว่าเป็นตัวแสดงคนหนึ่ง พวกเขาจะได้รับการฝึกอบรม และมีระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในแฟนตาซีแลนด์ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใน ทูมอโร่แลนด์ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวสับสนได้



ระเบียบอีกข้อคือ เมื่อต้องการชี้ทิศทาง ห้ามใช้นิ้วชี้แต่ให้ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคู่กัน หรือ ผายมือแทน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ห้ามไว้เล็บยาว ไว้หนวดเคราหรือย้อมผมสีประหลาดๆ ว่ากันว่า ระเบียบข้อนี้มีมาตั้งแต่สวนสนุกเปิด เพราะตอนนั้น ไม่อนุญาตให้คนที่ไว้หนวดเครา เข้าในสวนสนุก ก่อนหน้านี้เคยมีการยกเลิกระเบียบข้อนี้ แต่ภายหลังก็นำกลับมาใช้ใหม่

หลายคนคงสังเกตว่า มีตะเกียงดวงหนึ่งส่องแสงสว่างอยู่ทั้งวันทั้งคืน ตะเกียงดวงนี้อยู่ที่อพาร์ทเมนท์ ของ วอล์ท ตอนเริ่มสร้างสวนสนุก เขาย้ายมาอยู่อพาร์ทเมนท์เล็กๆ นี้เพื่อให้ใกล้กับเขตก่อสร้าง เพื่อจะได้ควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เขาตกแต่งห้องนี้อย่างมีรสนิยม ตอนนั้นเขามักจะจุดตะเกียงที่หน้าต่าง ซึ่งสามารถมองเห็นจากสวนสนุก ทำให้เป็นที่รู้กันว่า ถ้าไฟตะเกียงสว่างแสดงว่า นายใหญ่อยู่ที่นั่นภายหลังเขาเสียชีวิต ห้องนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และยังมีข้าวของของเขาอยู่ที่นั่นด้วย ไฟตะเกียงจะสว่างอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการระลึกถึงและเป็นเกียรติแก่เขา


บ้านผีสิง Haunted Mansion

บ้านผีสิง (Walt Disney Ghost House) ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัว แขกหลายคนทั้งๆ ที่ตั้งสติและบอกตัวเองว่า ข้างในนั้นเป็นสิ่งที่ทำขึ้นมา ก็ยังไม่วายสะดุ้งโหยง … เดวิด โคนิค อดีตเจ้าหน้าที่ของดิสนีย์แลนด์ เขียนเล่าไว้ในหนังสือของเขาว่า มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งขอเวลาพิเศษในบ้านผีสิง เพื่อรำลึกถึงเด็กอายุ 7 ขวบคนหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้ว สวนสนุกก็อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ แต่เจ้าหน้าที่เห็นคนกลุ่มนี้พากันโรยผงสีขาวเทา ขณะกำลังอยู่ในบ้าน ซึ่งก็คืออัฐิและเถ้ากระดูก เมื่อเห็นดังนั้น ทางสวนสนุกก็จำเป็นต้องปิดบ้านผีสิง และทำความสะอาดทันที โคนิคว่า มีคนจำนวนมากที่แอบมาโปรยอัฐิที่ดิสนีย์แลนด์….

อ่านถึงบรรทัดนี้ นั่นหมายถึง หมดแล้วค่ะ สำหรับ ความลับ ของ ดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกที่ทั้งน่ารัก น่าเที่ยว และแอบน่ากลัวนิดๆ คาดว่าหลายๆ คน คงจะเพิ่มความอยากไปเที่ยวที่ สวนสนุก ดิสนีย์แลนด์ กันสักครั้งหนึ่ง.. ถ้าใครไปมาแล้ว แวะมาแบ่งปันข้อมูลกันด้วยนะคะ

หมายเหตุ.. เพราะนี่คือ ความลับ เรื่องไหนจริง เท็จ เราไม่อาจจะรู้ทั้งหมด ดังนั้น อ่านเพื่อความบันเทิง   ก็พอนะคะ อย่าซีเรียสกันน๊า
ข้อมูลจาก:http://travel.mthai.com/world-travel/45255.html

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

The Little Mermaid


 




 
เรื่องย่อ :
                                   เป็นเรื่องราวของเงือกน้อยอายุ 16 ปี ที่มีชื่อว่า "แอเรียล"เธอคือเจ้าหญิงเงือกน้อยสาวแสนสวย ที่ทะเยอทะยานจะใช้ชีวิตนอกมหาสุทรที่เธออาศัยอยู่ หลายครั้งที่เธอขัดคำสั่งคิงไตรตั้นผู้เป็นพ่อ บ่อยครั้งที่เธอท่องมหาสุทรเพื่อสะสมของใช้ของมนุษย์ ไปกับฟลาวเดอร์ปลาน้อย เพื่อนรัก และบ่อยครั้งเหลือเกินที่เธอแอบขึ้นไปบนผิวน้ำ เพื่อฟังคำแนะนำผิดๆถูกๆของสกัตเติ้ลนกนางนวลจอมเซ่อ ซ่า ด้วยความเป็นห่วงแอเรียล คิงไตรตั้นจึงมอบหมายให้ปูสีแดงผู้ชำนาญงานดนตรีชื่อ เซบาสเตียนเป็นผู้ดูแล พฤติกรรมของเธอ ทว่าความใฝ่ฝันของแอเรียลยิ่งดูจะจริงจังมากยิ่งขึ้น เมือ่เธอได้ช่วยชีวิตเจ้าชายอีริคจากอุบัติเหตุพายุก ลางมหาสมุทร และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้หลงรักกับมนุษย์ ไม่มีใครรู้เรื่องราวในส่วนนี้ของเธอยกเว้น เออซูล่าแม่มดปลาหมึกอันร้ายกาจ เออซูล่าจึงใช้โอกาสนี้ในการหลอกล่อแอเรียลเพื่อให้เ ธอได้เป็นมนุษย์สมใจ อยาก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แอเรียลต้องจูบกับเจ้าชายด้วยความรักสามารถกลายร่างเ ป็นมนุษย์ไปตลอดกาล และเออซูล่าก็ไม่ยอมง่ายๆเพราะหล่อนมีแผนการอันชั่วร้ายที่จะทำลายชีวิตของ แอเรียลอยู่แล้ว 
               หลังจากคู่รักแอเรียล และอิริคได้ให้กำเนิดบุตรสาว เมโลดี้ พวกเขาทั้งสองต้องพบกับคำขู่อาฆาตจากน้องสาวเออร์ซูล่า ที่ชื่อ มอร์กาน่า หล่อนเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้น ถึงขนาดออกปากจองเวรกับแอเรียลว่าจะลักพาตัวเมโลดี้ไป สัญชาติญาณของความเป็นแม่ จึงต้องลุกขึ้นปกป้องลูกสาวให้พ้นอันตราย ด้วยการปิดบังฐานะที่แท้จริงของนางเงือก และออกคำสั่งให้เมโลดี้อยู่ไกลจากทะเลที่สุด แต่แล้วเมโลดี้ก็ขัดคำสั่งด้วยความฝันในการเป็นเงือกน้อย เธอบังเอิญพบกับมอร์กาน่าที่แปลงกายมาหลอกเป็นผู้วิเศษให้พรในวันครบรอบวันเกิด แล้วแผนของแม่มดชั่วก็เป็นจริงเมื่อหล่อนจับเมโลดี้เป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับการเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล แอเรียลจึงต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าอย่างเซบาสเตียน ฟลาวเดอร์ และ สกัดเติล เพื่อชิงตัวลูกสาวกลับคืนมา และทำให้ครอบครัวกลับมามีความสุขกันอีกครั้ง



ตัวอย่างหนัง http://www.youtube.com/watch?v=ZGZX5-PAwR8


 

 


 

 


up ปู่ซ่าบ้าพลัง





UP ปู่ซ่าบ้าพลัง








" วอลท์ ดิสนีย์ พิกซาร์พร้อมดันผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องที่ 10 ออกสู่สายตาผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด! เมื่อคุณปู่วัยขาสั่นอายุใกล้ 80 'คาร์ล เฟรดริกเซน' ซู่ซ่าเต็มร้อยออกเดินทางข้ามทวีปตามล่าหาฝัน กับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าตื่นเต้นที่ต้องพบกับเหล่าร้ายและการตามล่ามากมาย และแล้วคุณปู่สุดซ่าก็ได้ค้นพบตัวเองในที่สุดว่า ชีวิตการเป็นซูเปอร์ฮีโร่นี่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อถึงวัยใกล้ฝั่งจริงๆ   แต่สิ่งที่ทำให้การผจญภัยในครั้งนี้เป็นเสมือนฝันร้ายที่ไม่อยากตื่นมาเจอเลยของปู่ซ่าของเรา นั่นก็คือ รัสเซล ลูกเสือวัย 9 ขวบ นักผจญภัยที่เกิดมาพร้อมกับคำถามในทุกๆเรื่อง และเตรียมป่วนในทุกสถานการณ์ มาดูกันว่าที่ว่าบ้าพลังนั้น คุณปู่ของเราจะบ้ากับความยุ่งของเจ้าหนูรัสเซลก่อนจะได้ใช้พลังหรือไม่ จากผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ พีท ด็อกเตอร์ จาก มอนส์เตอร์อิงค์ ให้เสียงโดย เอ๊ด เอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, และแน่นอน จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ นักแสดงคนเดียวที่ได้พากย์เสียงในภาพยนตร์ทุกเรื่องของพิกซาร์ ซึ่งคราวนี้เขาจะรับบทเป็น คนงานก่อสร้างชื่อ ทอม เตรียมตัวผจญภัยบนท้องฟ้า ตะลุยป่าดงพงไพรไปกับฮีโร่วัยดึกและลูกเสือขี้สงสัย

ที่มา http://movies.narak.com/preview/up




ประวัติ วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney)



 
 
เดอะวอลท์ดิสนีย์








               
                         บริษัทเดอะวอลท์ดิสนีย์ (อังกฤษ: The Walt Disney Company- NYSEDIS) หรือรู้จักกันในชื่อ ดิสนีย์ (Disney) บริษัทสื่อและสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) โดยสองพี่น้องดิสนีย์ วอลต์ ดิสนีย์ และพี่ชาย รอย ดิสนีย์ โดยเริ่มก่อตั้งจากการเป็นสตูดิโอทำภาพยนตร์การ์ตูนในฮอลลีวูด และขยายกิจการเพิ่มเติมโดยในปัจจุบันมีสวนสนุก 11 แห่ง และสถานีโทรทัศน์หลายสถานี รวมถึง เอบีซี และ อีเอสพีเอ็น สำนักงานใหญ่ของดิสนีย์ตั้งอยู่ที่ วอลท์ดิสนีย์สตูดิโอส์ ที่เมืองเบอร์แบงก์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งดิสนีย์ได้เข้าสู่เป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2534สัญลักษณ์ทางการของดิสนีย์คือ มิกกี เมาส์
 
 

 
              
 
 
 
ประวัติ

                เดอะวอลท์ดิสนีย์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923)  ในชื่อ "ดิสนีย์บราเธอส์คาร์ตูนสตูดิโอ" (Disney Brothers Cartoon Studio) โดยสองพี่น้องดิสนีย์ วอลท์ ดิสนีย์ และ รอย ดิสนีย์ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ทำสัญญากับ เอ็ม. เจ. วิงเกลอร์ ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในฮอลลีวูด โดยซ็นสัญญาการ์ตูนชุด อลิซคอเมดีส์ (Alice Comedies) ที่วอลท์ได้เริ่มทำเมื่อสมัยที่ทำภาพยนตร์ที่แคนซัสซิตี หลังจากบริษัทก่อตั้งได้ระยะหนึ่ง บริษัทได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอ" (Walt Disney Studio) หลังจากสี่ปีที่ได้เปิดบริษัทมา วอลท์มีไอเดียสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้แก่ ออสวอลด์ เดอะ ลักกีแรบบิต (Oswald the Lucky Rabbit) แต่ทว่าเมื่อผ่านไปหนึ่งปี ทางผู้จัดจำหน่ายได้หยุดการให้ทุนวอลท์ดิสนีย์ แต่ได้นำตัวละครออสวอลท์ไปสร้างต่อกับบริษัทอื่นแทน ทำให้วอลท์จำเป็นต้องหาทุนถ่ายทำใหม่รวมถึงสร้างตัวละครการ์ตูนขึ้นมาใหม่ วอลท์ได้นำหนูมาเป็นตัวละครและตั้งชื่อให้ว่า มอร์ติเมอร์ (Mortimor) แต่ภรรยาของเขาแนะนำให้ใช้ชื่อ มิกกี (Mickey) แทน ซึ่งในตอนที่สามของการ์ตูนชุดในชื่อ สตีมโบตวิลลี (Steamboat Willie) นี้ วอลต์ได้นำเสียงประกอบมาใช้ในการ์ตูน และ ได้ออกฉายเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 ที่โรงละครโคโลนีในนิวยอร์ก ซึ่งได้รับการต้อนรับมากมายจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ซึ่งเป็นก้าวแรกของความสำเร็จของวอลท์ดิสนีย์ ต่อมาวอลท์ได้สร้างการ์ตูนชุดใหม่ในชื่อ ซิลลีซิมโฟนีส์ (Silly Symphonies) โดยฟลาเวอรส์แอนด์ทรีส์ในชุดนี้เป็นการ์ตูนรื่องแรกของดิสนีย์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ ในปี พ.ศ. 2498 วอลท์ได้เปิดสวนสนุกในชื่อดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต